ข่าวร้าย / ข่าวดี

คุณรู้สึกเหมือนผมมั๊ย รู้สึกไม่อยากอ่าน

หนังสือพิมพ์หัวสี โดยเฉพาะฉบับยอดนิยม

สีเขียว เต็มไปด้วยข่าวร้าย ฆาตรกรรม

อุบัติเหตุสยอง การเมืองน้ำเน่า ทุจริต ฉีก

หน้ากาก ภาพข่าวน่าหวาดเสียว เด็กเสียตัววัน

วาเลนไทน์ ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมถึงวันนี้ทีไรต้องมี

ข่าวนี้ทุกที ทั้งที่เด็กที่ทำเรื่องดีๆในวันนี้

ก็ยังมีอีกเยอะแยะ ไหนจะข่าวพระเล่น Hi5

ทำไมไม่เสนอข่าวพระที่มีวัตรปฏิบัติดีๆ

อ่านไปอ่านมารู้สึกหดหู่ ตื่นเช้าขึ้นมาก็เจอภาพ

เลือดสาดติดตากันไปทั้งวัน มีอยู่วันนึงผมเกิด

ไอเดียแปลกๆ เกิดอยากจะรู้ขึ้นมาว่า

ในหนังสือพิมพ์ที่ว่านี้จะมีข่าวร้ายหรือข่าวดี

มากกว่ากัน ผมเลยจับหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่

10 เมษายน ที่ผ่านมา มาสแกนข่าว โดยตัด

คอลัมน์ บทวิเคราะห์ โฆษณาข่าว PR ออกไป

เหลือแต่ที่เป็นข่าวจริงๆ ไล่ไปตั้งแต่

หน้า 1 ยันหน้าสุดท้าย แล้วแยกแยะ ข่าวร้าย

กับข่าวดี

ให้คุณทายครับว่าข่าวไหนจะเยอะกว่ากัน………

เลขที่ออกครับผิดคาดนะครับ ข่าวดีเฉือนชนะ

ข่าวร้ายไปด้วยคะแนน 31 ต่อ 29 เรื่อง แต่สิ่ง

ที่ผมเห็นก็คือ ข่ายร้ายจะเป็นหัวข้อข่าว

หน้าหนึ่ง ยิ่งร้ายเท่าไหร่ยิ่งต้องพาดหัว

รองๆลงไปก็เล็กลงมา แต่ข่าวดีๆ มักจะแอบๆ

อยู่หน้าในๆ เอาแบบถ้าไม่สนใจจริงๆก็ไม่ต้อง

อ่านก็ได้ อีกอย่างก็คือข่าวร้ายมักจะมีเนื้อหา

ยาว พรรณาอย่างละเอียดยิบตื่นเต้น

ระทึกใจเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ แต่ข่าวดี

มักจะสั้นๆ สรุปๆ รีบๆจบจะได้ไม่เปลืองเนื้อที่

สรุปแล้วถ้านับเอาจำนวนข่าว ข่าวดีเฉือนชนะ

แต่ถ้านับความสำคัญของข่าว และ พื้นที่ใน

หน้ากระดาษทั้งหมด ข่าวร้ายกินขาดครับ

จริงๆแล้วหนังสือพิมพ์ก็เป็นสินค้าประเภทหนึ่ง

ที่ต้องเอาใจผู้บริโภคเพื่อส่วนแบ่งตลาดสูงสุด

การเสนอข่าวให้มีสีสันก็เป็นกลยุทธ์ในการ

ครองใจผู้อ่าน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้อ่าน

อย่างพวกเราแล้วครับ ข่าวมีทั้งข่าวร้ายและ

ข่าวดี ถ้าเราเลือกบริโภคสิ่งดีๆก็คงมีประโยชน์

ใส่ความเห็น